การ์ตูนอนิเมะ รีวิว อนิเมะ ผลงานระดับตำนาน สตูดิโอจิบลิ Ghibli ได้นำอนิเมะ 21 เรื่องเข้า Netflix มีเรื่องไหนกันบ้างไปรับชม ข้อมูลกัน

การ์ตูนอนิเมะ อนิเมะ 21 เรื่องจากสตูดิโอจิบลิ ถ้าเป็นคอการ์ตูน อนิเมะ แล้วไม่เคยดูผลงานของ สตูดิโอจิบลิ ถือว่าเสียหายมาก ซึ่งทั้ง 21 เรื่องที่เข้าสู่ Netflix เป็นผลงานคุณภาพสูงทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องที่สนุกน้อยของสตูดิโอก็ยังทำได้ดีกว่าผลงานของค่ายอื่น ดูได้ทั้งครอบครัวพ่อแม่ลูก ให้ความบันเทิงแล้วยังสะท้อนสังคม ชีวิต แฝงแง่คิด ทุกเรื่องเมื่อกลับมาดูซ้ำแล้วอาจจะได้ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป
สตูดิโอจิบลิ ก่อตั้งโดย ฮายาโอะ มิยาซากิ ร่วมกับ อนิเมเตอร์และผู้กำกับชื่อดังอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดได้ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานมาอย่างต่อเนื่องกว่า 4 ทศวรรษ ทำให้กลายเป็นหนึ่งในค่ายหนังอนิเมะของญี่ปุ่นที่ได้รับการยกย่อง สร้างแบรนด์ของตนเองอยู่ในระดับโลก ทีมงานของสตูดิโอยังได้สร้างสรรค์ผลงานที่กวาดรางวัลมากมายในหลายสถาบันทั้งของญี่ปุ่นและระดับโลก กระทั่งรางวัลออสการ์ก็ทำสำเร็จมาแล้ว เป็นเรื่องแรกของญี่ปุ่นและของเอเชีย
Studio Ghibli Anime จิบลิ อนิเมะ รีวิว ทั้ง 21 เรื่อง
ซึ่งในโอกาสที่ผลงานอนิเมชั่นทั้ง 21 เรื่องของจิบลิ กำลังได้เข้ามาฉายใน Netflix ด้วยลิขสิทธิ์อย่างถูกต้อง หลายคนอาจสงสัยว่าแต่ละเรื่องไหนสนุกมากน้อยแค่ไหนบ้าง แล้วมีจุดเด่นหรือจุดด้อยตรงไหนบ้าง ก็จะได้มารีวิวให้ครบทั้ง 21 เรื่องครับ (อันที่จริงมีทั้งหมด 22 เรื่อง แต่สุสานหิ่งห้อย ไม่ได้ลิขสิทธิ์เข้ามาฉาย)
การ์ตูนอนิเมะ Spirited Away 2001
8.6/10 609,832 votes เข้าฉายใน Netflix วันที่ 1 มี.ค. 2020
อนิเมะที่เป็นระดับสุดยอดขึ้นหิ้งของวงการ ที่ได้กวาดรางวัลของหลายสถาบันในญี่ปุ่นและในระดับโลก โดยเฉพาะรางวัลที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับว่ายิ่งใหญ่ที่สุดอย่างออสการ์สาขาอนิเมชั่น (แม้ว่ายุคหลังรางวัลนี้จะเสียมนต์ขลังไปเยอะก็ตาม) พล็อตเรื่องที่ว่าด้วย เด็กหญิง โอกิโนะ จิฮิโระ หรือที่ตัวละครในเรื่องเรียกว่า “เซ็น” ต้องย้ายบ้านตามพ่อแม่ไปอยู่นอกเมือง ซึ่งระหว่างการขับรถย้ายบ้านนั้น พวกเขาได้พบกับสถานที่และอุโมงค์ลึกลับ เซ็นได้แค่หวาดกลัว ไม่อยากให้พ่อแม่เข้าไปในอุโมงค์นั้น
แล้วเมื่อพวกเขาขับรถผ่านอุโมงค์เข้ามา เซ็นก็ได้พบกับโรงอาบน้ำลึกลับ รวมถึงการได้พบกับเด็กหนุ่มลึกลับอย่าง ฮาคุ ทั้งหมดก็ทำให้ชีวิตของเซ็นต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล พล็อตเรื่องมีเท่านี้จริงๆ ซึ่งไม่สามารถสปอยล์ได้มากกว่านี้แล้ว ถึงแม้ว่านี่จะเป็นอนิเมชั่นที่ฉายจบไปแล้วตั้งแต่ปี 2001 แต่ถ้าเป็นคออนิเมะ แล้วยังไม่ได้ดูอนิเมะเรื่องนี้ ก็ถือว่ายังไม่ได้เสพผลงานระดับปรมาจารย์อย่างสมบูรณ์ครับ
ที่สำคัญนี่คืออนิเมะที่กวาดรายได้สูงสุดของจิบลิตลอดกาล และยังครองรายได้เป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่นอยู่นานกว่า 15 ปี กระทั่ง Your Name ของ ผกก. มาโคโตะ ชินไค เพิ่งมาเบียดแซงได้สำเร็จ
จุดเด่นที่สุดของเรื่องอยู่ที่ คาแรคเตอร์ตัวละคร และ ไอเดียในการสร้างสรรค์เรื่องราว โดยเฉพาะด้านพัฒนาการของตัวละคร นี่คือจุดเด่นที่สุดของเรื่อง แม้ว่าตัวอนิเมชั่นจะมีเวลาในการฉายจำกัด แต่เรื่องกลับแสดงให้เห็นพัฒนาการของเซ็น จากเด็กหญิงเอาแต่ใจและขลาดกลัว กลายเป็นเด็กหญิงที่ใจกล้าแกร่งและมีความคิดอ่านในระดับที่ผู้ใหญ่ก็ควรต้องเรียนรู้ไว้เลยครับ
หรือถ้าจะเอาจริงๆ ตัวละครเซ็นมีความคิดอ่านบางเรื่องที่ดีกว่าผู้ใหญ่อย่างพ่อแม่ของเธอตั้งแต่ตอนแรกที่เรื่องเปิดฉากด้วยซ้ำ เพียงแต่มันโดนความเอาแต่ใจและไม่อยากย้ายบ้านและย้ายโรงเรียนของเธอในช่วงครึ่งแรกมากลบบุคลิกตรงนี้ของตัวละครเอาไว้
ในส่วนของฮาคุ พระเอกของเรื่อง ถือว่าเป็นดีไซน์รูปแบบใหม่ของตัวเอกชายในผลงานของสตูดิโอเลยทีเดียว ซึ่งหลังจากก่อนหน้านี้ได้สร้างตัวละครเอกชายแบบชุนใน Whisper of the Heart และสายสุดยอดลูกผู้ชายอย่าง เจ้าชายอาชิทากะ ใน Princess Mononoke มาแล้ว รอบนี้ เป็นการสร้างตัวละครชายแนวฉลาด มาดขรึม แต่อบอุ่น แบบฮาคุขึ้นมาได้ (ก่อนจะไปสร้างพระเอกสายอีโก้สูงและปากเสียแบบฮาวส์ขึ้นมา)
เรื่องนี้ยังได้ออกแบบตัวละครรองๆที่ประสบความสำเร็จมาก เช่น ปีศาจเงา ที่โด่งดังและมีคนชอบไม่น้อย รวมถึงการเซตติ้งโลกของเหล่าภูติ และแฝงนัยยะการปกป้องสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ ตัวเรื่องยังดีไซน์ออกมาได้มีความเป็นญี่ปุ่นสูงยิ่งกว่าตอนที่ทำ Princess Mononoke เสียอีก
ในภาพรวมแล้ว หากถามว่า Spirited Away คู่ควรและยอดเยี่ยมขนาดเป็นสุดยอดอนิเมะตามที่หลายสถาบันยกย่องนั้น จริงแท้แค่ไหม แนะนำว่า “ต้องดูด้วยตาตนเองครับ” นี่คืออนิเมะที่ยากจะสปอยล์ได้ หรือต่อให้สปอยล์ออกมา คนอ่านก็คงไม่มีทางเข้าใจได้ หากไม่ได้ลองดูด้วยตาของตนเอง
Princess Mononoke 1997
8.4/10 321,677 votes เข้าฉายใน Netflix วันที่ 1 มี.ค. 2020
หนึ่งในผลงานระดับตำนานขึ้นหิ้งคลาสสิกที่ได้เข้าชิงออสการ์สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศเป็นเรื่องแรกของสตูดิโอจิบลิวงการอนิเมะญี่ปุ่น หากได้รับชมแล้ว เชื่อว่าคนส่วนมากก็น่าจะเห็นด้วยว่า เรื่องนี้คู่ควรจริงๆ แม้ว่าสุดท้ายแล้วเรื่องนี้จะไม่ได้รางวัลก็ตาม แต่ถือว่านี่คือเรื่องที่สามารถออกไปบุกเบิกตลาดในระดับโลกให้กับทางค่ายได้อย่างเป็นทางการเรื่องแรก ก่อนที่ภายหลัง Spirited Away จึงสามารถคว้าออสการ์มาได้สำเร็จ
เรื่องราวบอกเล่าการเดินทางของ เจ้าชายอาชิทากะ โดยจับความในยุคโบราณของญี่ปุ่นที่มนุษย์ยังต้องใช้ชีวิตผูกพันกับธรรมชาติและความเชื่อในแต่ละท้องถิ่น “เจ้าชายอาชิทากะ” เป็นนักรบหนุ่มที่ปกป้องเผ่าและหมู่บ้านของตนจากสัตว์ร้าย ภัยธรรมชาติ ไปจนถึงอมนุษย์ สัตว์ประหลาด และสิ่งเหนือธรรมชาติต่างๆ แต่เขากลับถูกคำสาปในระหว่างที่เอาตัวเองปกป้องหมู่บ้าน ทำให้แขนข้างหนึ่งของเขามีปีศาจสิงสถิตย์อยู่ ดังนั้นเขาจึงต้องออกเดินทางเพื่อหาหนทางแก้ไขคำสาปนั้นตามคำทำนายของแม่เฒ่าประจำหมู่บ้าน
แล้วในการเดินทางก็ได้ทำให้เขาพบว่า โลกภายนอกนั้นช่างมีวิถีชีวิตที่ไม่เหมือนกับหมู่บ้านของเขาเลย อีกทั้งตัวเขาก็ต้องเข้าพัวพันกับปัญหาความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับสิงสาราสัตว์ในป่า ไปจนถึงการค้นหาและแย่งชิงอำนาจลี้ลับของเทพเจ้าแห่งป่า แล้วยังทำให้เขาได้พบกับ “ซัน เจ้าหญิงหมาป่า” เด็กสาวผู้ที่เกิดและเติบโตท่ามกลางฝูงหมาป่าและเหล่าสัตว์ป่าที่ถูกพวกมนุษย์รุกราน ซันจึงร่วมกับฝูงหมาป่าของเธอต่อสู้กับพวกมนุษย์ ในขณะที่ฝั่งมนุษย์เองก็มองสัตว์ป่าเป็นศัตรูเช่นกัน
เจ้าชายอาชิทากะ ผู้ที่เกิดความผูกพันพิเศษกับซัน แล้วได้เข้ามาอยู่ระหว่างกลางของความขัดแย้งที่ยากจะหาทางลงรอยนี้ จึงต้องหาทางคลี่คลายสถานการณ์ที่ซับซ้อนซึ่งไม่ได้มีฝ่ายใดผิดถูกอย่างแท้จริง ไปจนถึงค้นหาหนทางแก้คำสาปของตนไปด้วย
ด้านพล็อตเรื่อง ที่จริงแล้วเรื่องนี้มีองค์ประกอบของเรื่องราวคล้ายกับ นาอูซิก้า ที่เป็นผลงานเรื่องแรกที่สร้างชื่อให้สตูดิโอ แต่เป็นการนำมาดัดแปลงใหม่ ให้ดิบเถื่อนและดาร์กขึ้น แล้วเรื่องนี้ยังมีความโดดเด่นมากในแง่ของการเล่าเรื่องและตัวละครที่แตกต่างจากหลายเรื่องของจิบลิที่ผ่านมา เนื่องจากเรื่องของจิบลิทั้งหมดก่อนหน้านี้นิยมใช้นางเอกเป็นตัวหลักในการเล่าเรื่อง หรือเป็น Mentor ของเรื่องราว มีแค่ Laputa ที่มุมมองของทั้งคู่พระ-นาง ใกล้เคียงกัน แต่สำหรับ Princess Mononoke ใช้ตัวละครชาย หรือพระเอก เป็นตัวเล่าเรื่องหลัก แล้วสำหรับคนที่ชอบอนิเมะสายแอ็กชั่นแฟนตาซี แล้วอยากดูหนังของจิบลิ ก็สามารถเริ่มดูจากเรื่องนี้ได้เลยครับ เพราะเป็นเรื่องที่แอ็กชั่นมากที่สุดของจิบลิแล้ว แถมยังนำเสนอได้ค่อนข้างดาร์ก เรียล ดิบ เถื่อน ที่สุดของจิบลิด้วย
เนื่องจากระหว่างการเล่าเรื่องไปจนถึงบทสรุปของเรื่องราว คนดูจะพบว่าไม่มีฝ่ายใดผิดถูกไปหมด ตัวละครมีความเป็นสีเทาสูงมาก อาจจะมากที่สุดในบรรดาอนิเมชั่นของจิบลิเลยก็ว่าได้ นางเอกอย่าง ซัน ก็ไม่ได้เป็นนางเอกประเภทสีขาวหรือนิสัยดีเหมือนนางเอกทั่วไป คือเป็นนางเอกที่มีมุมค่อนข้างโหดร้ายป่าเถื่อนพสมควร นอกจากนี้ในมุมมองของซันแล้ว มนุษย์ถือว่าเป็นศัตรูของป่าที่เธอต้องสังหาร เรียกว่าเธอพร้อมจะทำเรื่องโหดเหี้ยมถ้าเพื่อจัดการศัตรูได้ เป็นไม่อนิเมะของจิบลิที่นำเสนอภาพของสงครามและความขัดแย้งระหว่างเผ่าพันธุ์ได้ชัดเจนและดุดันมาก แล้วยังไม่ได้แค่ฉายภาพความโหดร้ายและความโลภของมนุษย์เท่านั้น แต่ยังเลือกนำเสนอความโหดร้ายและดิบเถื่อนของเหล่าสัตว์ป่าที่ก็มีการแบ่งพรรคแบ่งพวกกันเองและไม่ได้สนใจฟังเหตุผลเช่นกัน นั่นทำให้ทั้งตัวเอกและตัวร้ายในเรื่องไม่ได้มีใครผิดถูกชัดเจน
แต่ถ้าจะหาตัวละครที่เป็นด้านสว่างที่สุดในเรื่องนี้ ก็คงเป็นพระเอกอย่างอาชิทากะ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเอกชายที่น่าจะได้รับความนิยมสูงสุดของจิบลิด้วย โดยบทสรุปของเรื่อง ก็ไม่ได้จบแบบ Happy ไปหมด แต่จบตามที่เรื่องราวควรจะเป็น
ในแง่โปรดักชั่นและการเขียนบท เรื่องนี้ยังถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของสตูดิโอ เพราะเป็นการนำวิสัยทัศน์ของฮายาโอะและทีมงานให้เผยแพร่ออกสู่โลกอย่างเต็มตัว แม้ว่าเรื่องยังมีความเป็นญี่ปุ่นจ๋าตามเซตติ้งของเรื่อง แต่แนวคิดและความขัดแย้งในเรื่องนี้มีความเป็นสากลและร่วมสมัยสูงมาก ชนิดที่เอามาฉายในยุคปัจจุบัน ก็ยังคงทันสมัยอยู่ ซึ่งอาจจะบอกว่าเรื่องนี้คือจุดเริ่มต้นของการโกอินเตอร์อย่างจริงจังของ Studio Ghibli ก็ว่าได้ครับ
เมื่อมีการจัดอันดับของสถาบันต่างๆ จะพบว่า Princess Mononoke มักถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 2 ของสตูดิโอ เป็นรองเพียงแค่ Spirited Away เรื่องเดียวเท่านั้น
My Neighbor Totoro 1988
8.2/10 268,825 votes เข้าฉายใน Netflix วันที่ 1 มี.ค. 2020
ผลงานชื่อดังของจิบลิ ซึ่งในสมัยที่เริ่มฉายไม่ได้ประสบความสำคัญมากนัก แต่กลับกลายเป็นเรื่องที่โด่งดังระดับขึ้นหิ้งคลาสสิก จนถึงขั้นที่สร้างตัวละครมัสคอต “Totoro” โทโทโระ ให้กับสตูดิโอ แล้วดังไปทั่วโลก
Nausicaa of the valley of the wind 1984
8.1/10 140,454 votes เข้าฉายใน Netflix วันที่ 1 มี.ค. 2020
ผลงาน Original Animation เรื่องแรกของ ฮายาโอะ มิยาซากิ และ สตูดิโอจิบลิ ส่งให้ชื่อของเขากลายเป็นผู้กำกับที่มีวิสัยทัศน์โดดเด่น ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นผลงานออริจินอลเรื่องแรกที่เขาได้สร้างขึ้นเอง (หากไม่นับ Lupin III)
เรื่องราวในโลกอนาคตอันไกลโพ้นนับพันปี เมื่อโลกถูกทำลายโดยสภาพอากาศที่เป็นมลภาวะและจากภัยสงคราม นาอูซิก้า เจ้าหญิงผู้เก่งกาจที่ใช้ชีวิตอยู่ในดินแดนอันแห้งแล้งที่ต้องเผชิญกับเหล่าแมลงยักษ์สัตว์ประหลาด ในดินแดนแห่งสายลม ขณะเดียวกันเธอก็พบว่าประเทศข้างเคียงสองแห่งก็กำลังจะก่อสงครามครั้งใหญ่ ซึ่งดินแดนของเธอต้องมาอยู่ระหว่างกลางความขัดแย้งนั้น อีกทั้งปริศนาของพวกแมลงยักษ์ที่ถูกเข้าใจว่าเป็นพวกที่ทำลายพื้นผิวโลก มันอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไปก็ได้
สำหรับเรื่อง นาอูซิก้า เคยได้รับการโหวตในรางวัลอนิเมะกรังปรีซ์อวอร์ด ซึ่งเป็นรางวัลชั้นนำในญี่ปุ่น โดยได้รางวัลในสาขาออริจินอลอนิเมะชั่นยอดเยี่ยมติดต่อกันนานหลายปี ตัวละครนาอูซิก้าก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของตัวเอกหญิงที่มีทั้งความเข้มแข็ง กล้าหาญ ความอ่อนไหว และมีจิตใจดี มีเมตตา เป็นต้นแบบของนางเอกที่เพียบพร้อมในวงการอนิเมะญี่ปุ่นเมื่อยุค 80 เป็นต้นมา
จุดเด่นอีกอย่างคือ ความร่วมสมัยของเรื่องราว เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นในเรื่องที่ทำให้โลกเข้าสู่กลียุค ในปัจจุบันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ไกลตัวอีกแล้ว แต่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ถ้ามนุษย์เรายังไม่หาทางแก้ไข ในส่วนของดีไซน์ก็มีความโดดเด่น ในแง่เมคานิคไซไฟแบบดิสโทเปีย
จุดด้อยก็พอมีอยู่บ้าง คือในแง่ของงานภาพ ลายเส้น และการเล่าเรื่องบางจุดที่ก็ยังมีความเป็นอนิมะยุคเก่าจากต้นยุค 80 ซึ่งบางอย่างอาจจะดูเชยไปบ้างเอากลับมาดูตอนนี้ แต่ในภาพรวมแล้ว เรื่องนี้ก็ยังคงมีความคลาสสิก และเป็นต้นแบบของอนิเมะจากจิบลิเกือบทุกเรื่องจนถึงตอนนี้ด้วย เพราะถ้าไม่มีนาอูซิก้า ก็อาจจะไม่มีความสำเร็จอื่นๆตามมาในยุคหลังเช่นกันครับ
The Tale of Princess Kaguya 2013
8.0/10 34,313 votes เข้าฉายใน Netflix วันที่ 1 มี.ค. 2020
พล็อตเรื่องเกี่ยวกับ “เจ้าหญิงคางุยะ” หรือ เจ้าหญิงกระบอกไม้ไผ่ ซึ่งเป็นตำนานพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในความเชื่อของคนญี่ปุ่น เรื่องราวเล่าเกี่ยวกับ คางุยะ เด็กผู้หญิงที่ถือกำเนิดมาจากกระบอกไม้ไผ่ ซึ่งเป็นนิทานพื้นบ้านในศตวรรษที่ 10 โดยมีการนำเสนอเรื่องราวในแบบ Bitter Sweet ตามตำนาน
สำหรับเรื่องนี้เป็นการกลับมากำกับให้กับอนิเมะของ Studio Ghibli โดย ผู้กำกับ อิซาโอะ ทาคาฮาตะ หนึ่งในผู้ก่อตั้งสตูดิโอร่วมกับ ฮายาโอะ มิยาซากิ ซึ่งผลงานระดับมาสเตอร์พีซในอดีตของเขาก็คือ Grave of the Fireflies หรือ สุสานหิ่งห้อย แต่เขาได้เสียชีวิตลงด้วยมะเร็งปอดในปี 2018 ทำให้เจ้าหญิงคางุยะกลายเป็นผลงานกำกับเรื่องสุดท้ายของเขาไปด้วย
ความสุดยอดของอนิเมชั่นเรื่องนี้ก็คือ “งานภาพ” ที่นำเสนอได้อย่างมีสไตล์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีรสชาติพิเศษที่แตกต่างไปจากงานเรื่องอื่นของจิบลิ และที่สำคัญ นี่คืองานที่สามารถถ่ายทอดด้านอารมณ์แบบหนักหน่วงของตัวละครเอกได้ชนิดที่พาคนดูจมลงก้นบึ้งได้ด้วยมากที่สุดของสตูดิโอ ถ้าจะบอกว่า นี่คือผลงานที่ดูแล้วชวนอึดอัดและเศร้าตามตัวละครที่สุดเรื่องหนึ่งของค่ายนี้นอกจากเรื่อง สุสานหิ่งห้อย เลยก็ว่าได้
ผลงานเรื่องนี้ได้รับคำชมสูงมาก ทั้งด้านงานภาพ การเล่าเรื่อง โปรดักชั่น อีกทั้งความที่เรื่องกลับมาเล่นตำนานญี่ปุ่นโบราณที่คนตะวันตกชื่นชอบอยู่แล้วก็ทำให้เรื่องนี้ได้เข้าชิงและกวาดรางวัลในระดับชาติและต่างประเทศจำนวนมากครับ
สำหรับนิยามของเรื่องนี้คือ เป็นผลงานที่ไปไกลเกินกว่าคำว่าอนิเมชั่น แต่กลายป็นผลงานศิลปะยอดเยี่ยมชิ้นหนึ่งไปแล้ว
Laputa: Castle in the Sky 1986
8.0/10 141,542 votes เข้าฉายใน Netflix วันที่ 31 ม.ค. 2020
หนึ่งในอนิเมะสุดคลาสสิก เรื่องราวการผจญภัยแบบไซไฟแฟนตาซีในโลกอนาคตที่ห่างไกล เกี่ยวกับ คู่เด็กหนุ่มและเด็กสาว พาสุและชีต้า ที่ได้มาพบกันโดยบังเอิญ ชีต้ายังมีคริสตัลวิเศษที่นำไปสู่ความลับบางอย่างที่ทำให้พวกโจรสลัดและกลุ่มอำนาจหมายปอง พาสุจึงตัดสินใจพาชีต้าออกเดินทางเพื่อค้นหาความลับที่คริสตัลจะนำทางไป
พล็อตเรื่องเป็นแนวผจญภัยแบบ Adventure ในโลกอนาคต ที่ค่อนข้างฮิตในยุคนั้น ซึ่งองค์ประกอบทั้งหมดในเรื่อง ลาพิวต้า ปราสาทลอยฟ้า จะพบได้เกือบทั้งหมดในผลงานของจิบลิทุกเรื่องหลังจากนั้น ไม่ว่าจะเป็น ตัวเอกชายหญิงที่เป็นเด็กหนุ่มสาว, เด็กหญิงมักจะมีความพิเศษบางอย่าง, เครื่องบิน, ความขัดแย้งระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ เทคโนโลยี, ตัวร้ายที่ไม่ได้ร้ายไปหมด แต่เป็นสีเทา และมักแฝงคติสอนใจและการสะท้อนหรือกัดสังคมไปด้วย
ข้อเด่นอย่างหนึ่งของลาพิวต้าก็คือ นี่เป็นเรื่องแนวแฟนตาซีผจญภัยของ Ghibli ที่มี “ความสว่างและสะอาดมาก” คือเป็นเรื่องที่พ่อแม่สามารถพาลูกที่ยังเล็กมาดูได้โดยที่เรื่องราวไม่ได้นำเสนอให้ดูโหดร้ายรุนแรงหรือแฝงมุมดาร์กไว้เกินไป เพราะสำหรับเรื่องอื่นๆที่ฉากหน้าดูแล้วเด็กน่าจะดูได้ มันกลับแฝงความมืดหม่นบางอย่างอยู่ เช่น แม่มดน้อย Kiki ก็มีมุมดราม่าหดหู่อยู่ค่อนข้างมาก หรือเรื่องระดับสุดยอดอย่าง Spirited Away ก็อาจจะไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็ก หรือเรื่อง นาอูซิก้า และ โทโทโร่ ก็อาจจะต้องให้เด็กมีอายุขึ้นมาอีกนิด เพราะงานภาพบางอย่างมีความน่าสยองอยู่พอสมควร แต่ลาพิวต้า ไม่มีอะไรแบบนั้น เด็กเล็กสามารถดูได้เลย
อีกทั้งในบรรดาผลงานทั้งหมดของสตูดิโอที่ได้ออกไปโกอินเตอร์หลังจากผลงานทั้งหมดถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปฉายในโลกตะวันตก ลาพิวต้ายังเป็นเรื่องที่ประสบความสำเร็จและได้รับคำวิจารณ์สูงมากอีกด้วย แม้ว่างานภาพจะค่อนข้างเก่า เป็นผลงานยุค 80 ซึ่งเป็นช่วงบุกเบิกของค่าย แต่นี่เป็นหนึ่งในผลงานที่เหมาะสำหรับคนที่สนใจอยากจะเริ่มดูอนิเมะของจิบลิ สามารถเริ่มต้นจากเรื่องนี้หรือนาอูซิก้าได้เลยครับ
Whisper of the Heart 1995
7.9/10 46,068 votes เข้าฉายใน Netflix วันที่ 1 เม.ย. 2020
เรื่องราวของ สาวน้อยวัยช่างฝัน ชิสึคุ ที่ชอบการอ่านหนังสือ นิยาย และใช้เวลาว่างไปกับการอ่านหนังสือในห้องสมุด กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตที่กำลังมองหาเป้าหมายและความฝันของตนเอง ซึ่งเธอก็ได้มาพบกับ เซย์จิ เด็กหนุ่มที่เป็นหลานชายเจ้าของร้านซ่อมไวโอลิน ผู้มีความฝันอยากจะเป็นช่างทำไวโอลินเหมือนกับคุณปู่ของตน
ทั้งสองได้มาพบกัน ต่างฝ่ายได้เล่าความฝันของตน และทำให้ทั้งสองได้สร้างแรงบันดาลใจของตนเองที่จะทำตามความฝัน รวมถึงความรักในวัยหนุ่มสาวที่ก่อตัวขึ้น
เรื่องนี้ถือว่าเป็นการพาอนิเมะของสตูดิโอนี้ให้เข้าสู่ยุคกลาง รวมถึงเป็นจุดพีคของแนวทางเรื่องแนวโรมานซ์วัยรุ่นในแบบ Coming of Age ซึ่งคนที่ชอบเรื่องแนวนี้สามารถหยิบมาดูซ้ำได้ การสร้างบรรยากาศของเมืองที่ผสมผสานระหว่างสไตล์ญี่ปุ่นและเมืองเวนิสในอิตาลีเข้าด้วยกัน ก็ทำได้ดีมาก
แต่ก็น่าเสียดายว่า ผลงานเรื่องนี้มีจุดที่ “ยังขาดอะไรบางอย่างอีกนิดเดียว” ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้จะสามารถให้คะแนนที่สูงกว่านี้ได้เลยครับ อีกจุดที่น่าเสียดายคือ ตอนจบของเรื่องที่ห้วนไปนิด เรียกง่ายๆว่ามันน่าจะได้เวลา Airtime ช่วงท้ายมากกว่านี้อีกนิดหน่อย
สำหรับตอนจบ คนดูอาจจะสงสัยว่า ความสัมพันธ์ของคู่พระนางจะข้ามขั้นเร็วเกินไปหรือไม่ ตรงนี้เคยมีหลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า อาจจะเป็นการส่งสารจาก ฮายาโอะ มิยาซากิ ที่ต้องการส่งไปถึงคนญี่ปุ่นรุ่นใหม่ในสมัยนั้นการผูกความสัมพันธ์และคำสัญญา แล้วจะลงมือทำกันตั้งแต่วัยรุ่น มันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร
la galaxy 1
เว็บ ดูอนิเมะพากษ์ไทย ฟรี https://myanimesource.com/
สนับสนุนโดย :
https://riverbellepoipet.com/
https://jackpotcitypoipet.com/
https://luckynikipoipet.com/
https://asiagamingpoipet.com/